ต้นพิกุล
ชื่อท้องถิ่น:พิกุล
ชื่อวิทยาศาสตร์:Mimusops elengi
ชื่อสามัญ:Bullet wood
ชื่อวงศ์:Sapotaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:พิกุลเป็นไม้ยืนต้น ใบเดี่ยว
เรียงเวียนสลับ รูปรี รูปไข่กว้าง 2-6 เซนติเมตร ยาว 7-15 เซนติเมตร
ปลายใบแหลมเป็นติ่งขอบใบเป็นคลื่น ดอกเดี่ยว
อยู่รวมกันเป็นกระจุกที่ปลายกิ่งหรือที่ซอกใบ กลีบเลี้ยง 8 กลีบ
เรียงซ้อนกัน 2 ชั้น กลีบดอกประมาณ 24 กลีบ
เรียงซ้อนกันโคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเล็กน้อย ดอกสีขาว
เมื่อใกล้โรยสีเหลืองอมน้ำตาล ดอกบานวันเดียวแล้วร่วง มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี
ผลสีเหลือง รสหวานอมฝาด
การปลูกเลี้ยง:เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นพิกุลทองทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผู้ปลูกควรปลูกในวันจันทร์หรือวันเสาร์ เพราะคนโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ ถ้าจะให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเองผู้ปลูกควรเป็นสุภาพสตรี เพราะพิกุลเป็นชื่อที่เหมาะสำหรับสุภาพสตรี
แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำน้อย ควรให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง อายุประมาณ 4 ปี สามารถทนต่อสภาพธรรมชาติได้
ดิน ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นน้อยถึงปานกลาง
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2-3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธ์ การตอน การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ด
โรค ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร
ศัตรู หนอนเจาะลำต้น (Stem boring caterpillars)
อาการ ลำต้นหรือกิ่งเป็นรู เป็นรอย ต่อมาใบแห้งเหี่ยว
การป้องกัน รักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก หรือกำจัดแมลงพาหะ ใช้ยาเช่นเดียวกับการกำจัด
การกำจัด ใช้ยาไดเมทโธเอท หรือ เมโธมิล อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำน้อย ควรให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง อายุประมาณ 4 ปี สามารถทนต่อสภาพธรรมชาติได้
ดิน ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นน้อยถึงปานกลาง
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2-3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธ์ การตอน การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ด
โรค ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร
ศัตรู หนอนเจาะลำต้น (Stem boring caterpillars)
อาการ ลำต้นหรือกิ่งเป็นรู เป็นรอย ต่อมาใบแห้งเหี่ยว
การป้องกัน รักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก หรือกำจัดแมลงพาหะ ใช้ยาเช่นเดียวกับการกำจัด
การกำจัด ใช้ยาไดเมทโธเอท หรือ เมโธมิล อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น